केंद्रीय हिंदी
संस्थान, आगरा (Central Institute of Hindi)
เกนทรียะ ฮินดี สันสถาน, อาครา (ศูนย์ศึกษาภาษาฮินดี)
ภาพที่ ๑
เกนทรียะ ฮินดี สันสถาน , อาครา มุขยาลัย เอวัง (และ) คานธี ภะวัน
ที่มา : วิทยาลัยเกนทรียะ ฮินดี สันสถาน, อาครา http://khsindia.org/india/en/
ภาพที่ ๒ ตราประจำวิทยาลัย
ที่มา : วิทยาลัยเกนทรียะ ฮินดี สันสถาน, อาครา http://khsindia.org/india/en/
คำขวัญ : ชโยติต โห ชน-ชน กา ชีวัน (แสงสว่างแห่งชีวิตของมวลชน)
ผู้สนใจเรียนภาษาฮินดีที่ประเทศอินเดีย สามารถขอทุนได้จากรัฐบาลอินเดีย
โดยถ้าต้องการไปเรียนภาษาฮินดีระดับต้น จะไปศึกษาที่ศูนย์ศึกษาภาษาฮินดีคือ เกนทริยะ
ฮินดี สันสถาน (Kendriya Hindi Sansthan) สาขาเมืองอาครา หรือผู้ใช้ทุนของตนเองก็ไปจ่ายเองและสมัครเรียนที่ เกนทริยะ
ฮินดี สันสถาน (Kendriya Hindi Sansthan) สาขาเมืองเดลลี
ซึ่งจะมี ๔ หลักสูตร ตั้งแต่ชั้นต้น ไปจนถึงชั้นสูง โดยที่ในระดับชั้นที่ ๒ และ ๓ เทียบเท่ากับอนุปริญญา
ชั้นที่ ๔ คือหลังอนุปริญญา โดยนักศึกษาต่างชาติผู้ที่จะเข้าศึกษาต้องมีอายุระหว่าง
๒๑-๓๕ ปี โดยแต่ละหลักสูตรใช้เวลาเรียนประมาณ ๖-๘ เดือนเป็นหลัก โดยถ้าได้ทุนรัฐบาลอินเดียจะออกให้หมดทุกอย่างทั้งค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ (เฉพาะที่ได้ทุนมาเรียนฮินดีที่ฮินดีสันสถานสาขาอาครา) ค่าที่พัก ค่าเทอม และมีค่าเบี้ยเลี้ยงชีพให้นักศึกษาต่างชาติไว้ใช้แต่ละเดือนจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งถ้าประหยัดไม่ไปเที่ยวไหนเลย ก็สามารถอยู่ได้สบาย แต่ส่วนใหญ่นักศึกษาต่างชาติชอบเที่ยว ชอบเช่าจักรยานขี่ชมเมือง ชอบเข้าไปกางเต้นท์ค้างในทัชมาฮาลในคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งแสงพระจันทร์จะทำให้ทัชมาฮัล กลายเป็นสีชมพู ฯลฯ ซึ่งไม่เกี่ยวกับค่าเล่าเรียน จึงจะต้องจ่ายเอง ด้วยเงินส่วนตัว
โดยผู้ที่จะขอทุนไปเรียนที่ เกนทริยะ
ฮินดี สันสถาน สาขาอาคราได้ จะต้องเรียนฮินดีในเมืองไทยอย่างน้อย ๕๐ - ๑๐๐ ชั่วโมง และได้รับการรับรองจากหนังสือรับรองของอาจารย์ผู้สอนภาษาฮินดีที่มีสังกัดในมหาวิทยาลัยของรัฐบาลไทยที่ทางสถานทูตอินเดียในเมืองไทยยอมรับ หรือผ่านการเรียนฮินดีในประเทศอินเดียอย่างหลักสูตรเรียนภาษาฮินดีเร่งรัด ๑ เดือน ที่ MGAHV, University ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในการกำกับและได้มาตรฐานของรัฐบาลอินเดีย จึงจะสามารถขอทุนเรียนฟรีที่ฮินดีสันสถานจากรัฐบาลอินเดียได้ ซึ่งมักจะประกาศรับสมัครผู้สนใจและมีคุณสมบัติดังกล่าวในช่วงเดือนเมษายน (หรือหลังจากที่ทางสถานทูตอินเดียในประเทศไทยประกาศมอบทุนให้กับนักศึกษาหรืออาจารย์ชาวไทยไปศึกษาต่อ ป. โท และ ป. เอก ฟรีที่อินเดียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
ภาพที่ ๓ การเรียนการสอนในชั้นเรียนของวิทยาลัยฮินดีสันสถาน
ที่มา : วิทยาลัยเกนทรียะ ฮินดี สัมสถาน, อาครา http://khsindia.org/india/en/
ภาพที่ ๔ นักศึกษานาคแลนด์ มณีปูร สิขิม และชาวไต (ชาวอีสาน) ของอินเดียที่นิยมมาเรียนที่ฮินดีสันสถาน
ที่มา : วิทยาลัยเกนทรียะ ฮินดี สันสถาน, อาครา http://khsindia.org/india/en/
โดยหลักสูตรของฮินดีสันสถานมี
๔ หลักสูตรสำหรับนักศึกษาต่างชาติคือ
(๑) Hindi
Language Proficiency Certificate Course (ประกาศนียบัตรขั้นชำนาญ,
ภาษาฮินดี)
(๒) Hindi
Language Proficiency Diploma course (อนุปริญญาขั้นชำนาญ,
ภาษาฮินดี)
(๓) Hindi
Language Advanced Diploma (อนุปริญญาขั้นพัฒนาแล้ว , ภาษาฮินดี)
(๔) Post-Graduate
Hindi Diploma (ภายหลังสำเร็จอนุปริญญา , ภาษาฮินดี)
โดยผู้นักศึกษาต่างชาติที่เข้าศึกษาจะต้องมีอายุระหว่าง
๒๑-๓๕ ปี
ภาพที่ ๕ นักศึกษานานาชาติที่ฮินดีสันสถาน
ที่มา : วิทยาลัยเกนทรียะ ฮินดี สันสถาน, อาครา http://khsindia.org/india/en/
ภาพที่ ๖ ประกาศนียบัตรชั้นต้นหลักสูตร Hindi
Language Proficiency Certificate Course (ประกาศนียบัตรขั้นชำนาญ,
ภาษาฮินดี) เมื่อ ๑๒ ปีก่อน; ที่มาถ่ายเองเมื่อ ๒๕ มิถุนายน ค.ศ. ๒๐๑๐
หมายเหตุ:
๑) โดยมากนักศึกษาที่เลือกเรียนภาษาฮินดี อาจารย์มักจะแนะนำให้หลังเรียนจบช่วงที่รองานทำ หรือสมัครเรียนต่อ ลองไปสมัครทุนเรียนภาษาฮินดีที่สถานทูตอินเดียดู เพื่อหาประสบการณ์ชีวิตในต่างประเทศหนึ่งปี ก่อนที่จะกลับมางานทำ หรือศึกษาต่อในประเทศไทย หรืออินเดีย แต่สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนต่อในประเทศอินเดีย มักจะสมัครทุนนี้เพื่อใช้หามหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเรียนต่อในประเทศอินเดีย และได้เรียนภาษาฮินดีควบคู่ไปด้วย เพราะโดยมากการติดต่อสอบเข้า สอบภาษาอังกฤษ สอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ และหาอาจารย์ที่ปรึกษาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ต้องใช้เวลาติดต่อประมาณหนึ่งปี แม้ว่าจะมีมหาวิทยาลัยที่ตนเลือกไว้แล้วจากระบบรายชื่อที่ สกอ. ในเมืองไทยรับรองก็ตาม (เช่น เขาอาจจะไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาให้เราในสาขาที่เราต้องการเรียน เนื่องจากอาจารย์คนดังกล่าวย้ายไปอยู่มหาวิทยาลัยอื่นแล้ว ฯลฯ ที่เราคาดไม่ถึงในอินเดีย) โดยประเทศอินเดียให้ทุนนักศึกษาเรียนในมหาวิทยาลัยที่ผ่านการรับรองรัฐบาลอินเดียเท่านั้น และไม่อนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติทำงานในประเทศอินเดีย ดังนั้นการที่จะไปเรียนอินเดียในปัจจุบันที่มีค่าใช้จ่ายในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เก็บเป็นเงินดอลลาร์ ในปัจจุบันจึงควรสอบทุนให้ได้ก่อนถึงไปเรียน
๒) เมื่อจบการศึกษาจากศูนย์ศึกษาภาษาฮินดีแล้ว โดยมีพื้นความรู้ด้านภาษาสันสกฤตในระดับปริญญาโทก็สามารถไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาภาษาฮินดีที่ MGAHV, University มหาวิทยาลัย มหาตมา คานธี อันตรราษฏรียะ ฮินดี วิศววิทยาลัย, สาขาเมืองวรธา รัฐมหาราษฏระ เพราะภาษาสันสกฤตยากกว่า และแขกมองว่าภาษาฮินดีกับสันสกฤตใกล้เคียงกัน คือภาษาสันสกฤตเป็นภาษาอินโดอารยันยุคเก่า หรือส่วนภาษาฮินดีเป็นภาษาอินโดอีหราเนียนยุคใหม่ คือภาษาฮินดีเป็นภาษาที่ได้รับอิทธิพลหลักมาจากภาษาสันสกฤต และภาษาเปอร์เซีย (ภาษาอีหร่าน) ถ้าใช้ตัวเทวนาครีเขียนจะเรียกว่าภาษาฮินดี แต่ถ้าใช้ตัวอารบิกเขียนจะเรียกว่าภาษาอูรดู
หมายเหตุ:
๑) โดยมากนักศึกษาที่เลือกเรียนภาษาฮินดี อาจารย์มักจะแนะนำให้หลังเรียนจบช่วงที่รองานทำ หรือสมัครเรียนต่อ ลองไปสมัครทุนเรียนภาษาฮินดีที่สถานทูตอินเดียดู เพื่อหาประสบการณ์ชีวิตในต่างประเทศหนึ่งปี ก่อนที่จะกลับมางานทำ หรือศึกษาต่อในประเทศไทย หรืออินเดีย แต่สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเรียนต่อในประเทศอินเดีย มักจะสมัครทุนนี้เพื่อใช้หามหาวิทยาลัยที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเรียนต่อในประเทศอินเดีย และได้เรียนภาษาฮินดีควบคู่ไปด้วย เพราะโดยมากการติดต่อสอบเข้า สอบภาษาอังกฤษ สอบหัวข้อวิทยานิพนธ์ และหาอาจารย์ที่ปรึกษาในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ต้องใช้เวลาติดต่อประมาณหนึ่งปี แม้ว่าจะมีมหาวิทยาลัยที่ตนเลือกไว้แล้วจากระบบรายชื่อที่ สกอ. ในเมืองไทยรับรองก็ตาม (เช่น เขาอาจจะไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาให้เราในสาขาที่เราต้องการเรียน เนื่องจากอาจารย์คนดังกล่าวย้ายไปอยู่มหาวิทยาลัยอื่นแล้ว ฯลฯ ที่เราคาดไม่ถึงในอินเดีย) โดยประเทศอินเดียให้ทุนนักศึกษาเรียนในมหาวิทยาลัยที่ผ่านการรับรองรัฐบาลอินเดียเท่านั้น และไม่อนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติทำงานในประเทศอินเดีย ดังนั้นการที่จะไปเรียนอินเดียในปัจจุบันที่มีค่าใช้จ่ายในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เก็บเป็นเงินดอลลาร์ ในปัจจุบันจึงควรสอบทุนให้ได้ก่อนถึงไปเรียน
๒) เมื่อจบการศึกษาจากศูนย์ศึกษาภาษาฮินดีแล้ว โดยมีพื้นความรู้ด้านภาษาสันสกฤตในระดับปริญญาโทก็สามารถไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาภาษาฮินดีที่ MGAHV, University มหาวิทยาลัย มหาตมา คานธี อันตรราษฏรียะ ฮินดี วิศววิทยาลัย, สาขาเมืองวรธา รัฐมหาราษฏระ เพราะภาษาสันสกฤตยากกว่า และแขกมองว่าภาษาฮินดีกับสันสกฤตใกล้เคียงกัน คือภาษาสันสกฤตเป็นภาษาอินโดอารยันยุคเก่า หรือส่วนภาษาฮินดีเป็นภาษาอินโดอีหราเนียนยุคใหม่ คือภาษาฮินดีเป็นภาษาที่ได้รับอิทธิพลหลักมาจากภาษาสันสกฤต และภาษาเปอร์เซีย (ภาษาอีหร่าน) ถ้าใช้ตัวเทวนาครีเขียนจะเรียกว่าภาษาฮินดี แต่ถ้าใช้ตัวอารบิกเขียนจะเรียกว่าภาษาอูรดู
ภาพที่ ๗ วังของราชวงศ์โมกุลและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อต่าง ๆ ในเมืองอาครา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น