รูปเทวี อาณฺฑาลฺ
(ตำนานเทวทาสีในยุคแรกแห่งอินเดียใต้)
............
อาณฺฑาลฺ (เขียนอาณฺฑาลฺ อ่านอาณ-ดาลฺ)
เดิมนางชื่อว่า โกไต கோதை (พวงดอกไม้ของสตรี, ผมของสตรี, ภูต, สายลม)
.........
มีตำนานเล่าว่า
ในหมู่บ้านหนึ่งใกล้กับนครมะดูไรซึ่งอยู่ในรัฐทมิฬนาฑูมีพรามหณ์คนหนึ่ง นามว่า วิษณุสิทธา มีหน้าที่ในการจัดหาดอกไม้เพื่อไปถวายแก่เหล่าเทพที่วัดติรุวิลฺลิปุตฺตูรฺ (திருவில்லிபுத்தூர்) วันหนึ่งขณะที่พราหมณ์ผู้นี้ปฏิบัติหน้าที่เหมือนทุกวัน บังเอิญไปพบกับเด็กทารกหญิงผู้หนึ่งอยู่ในบริเวณใต้ต้นตุลสี (กะเพรา) ภายในสวนของเทวาลัย นึกเอ็นดูจึงเลี้ยงดูเด็กหญิงผู้นั้น เป็นบุตรบุญธรรมและตั้งชื่อให้เด็กทารกนี้ว่า "โกไต" ด้วยความที่เด็กน้อยผู้นี้อาศัยกับพราหมณ์ หาดอกไม้ถวายพระเจ้า ขับร้องเพลงถวายแก่พระผู้เป็นเจ้าอยู่เป็นประจำ ด้วยการเลี้ยงดูเช่นนี้ทำให้เด็กมีความผูกพันกับพระเป็นเจ้าเป็นอย่างมาก พรามหณ์ก็ได้สอนวิชาความรู้ทุกอย่างให้กับนาง และนางได้แต่งบทเพลงและขับร้องถวายต่อพระกฤษณะ (ปางหนึ่งของพระนารายณ์หรือวิษณุ) ผู้เป็นเทพเจ้าที่เธอรักยิ่ง เพราะนางลุ่มหลงและคิดว่าจะได้แต่งงานกับพระเป็นเจ้าจริงๆ
และเนื่องจากพรามหณ์คนนี้มีหน้าที่จัดหาดอกไม้ไปถวายแก่พระเป็นเจ้าทุกวัน นางจึงฝากพราหมณ์นำผ้าไปถวายต่อพระวิษณุทุกวันเช่นกัน จนวันหนึงพราหมณ์สังเกตเห็นเส้นผมของนางติดไปกับผ้าที่ถวาย จึงคิดว่าผ้านี้ไม่บริสุทธิ์ไม่เหมาะกับการถวายต่อพระเป็นเจ้า พราหมณ์จึงได้จัดเครื่องถวายชุดใหม่เพื่อถวายต่อพระวิษณุเทพแทน แล้วคืนนั้นเองพรามหณ์ก็ฝันว่า พระวิษณุ (นามหนึ่งของพระนารายณ์) มากล่าวกับตนว่า เหตุใดท่านจึงเปลี่ยนเครื่องถวาย ไม่ใช้เครื่องถวายที่บุตรีท่านนำมาถวายเราเช่นดังเดิม ตั้งแต่นั้นมาจึงให้นางถวายผ้าเหมือนเช่นเดิม และ นางจึงเป็นที่รู้จักในนาม อาณฺฑาลฺ ซึ่งแปลว่า นายหญิง หรือ เทวี (เทียบกับคำว่า ஆண்டோன் อาณฺโฑณ แปลว่า เจ้านาย หรือเทวดา รากศัพท์มาจากคำว่า ஆண் แปลว่า คน มนุษย์ อาณฺโฑณจึงหมายถึงไม่ใช่มนุษย์สามัญ )
เมื่อถึงเวลาอันควรที่อาณฺฑาลฺจะต้องแต่งงาน ท่านพราหมณ์ก็ได้หาคู่และเตรียมพิธีแต่งงานให้ แต่นางก็ยืนยันว่านางจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากนอกจากพระกฤษณะเท่านั้น คืนนั้นเองพระวิษณุมาเข้าฝันกับพราหมณ์วิษณุสิทธาว่า ให้ส่งนางไปยังวัดศรีรังคนาถสวามีซึ่งเป็นที่ๆเราอยู่ ให้นางแต่งภูษาอันงดงามเพื่อเข้าพิธีอภิเษกกับเรา และนางจะอยู่กับเราตลอดกาล พราหมณ์วิษณุสิทธาก็จัดแต่งขบวนรถเพื่อส่งนางไปยังวัดศรีรังคนาถสวามี เพื่อถวายนางแก่พระเป็นเจ้า เมื่อขบวนถึงวัดนางก็วิ่งเข้าไปในเปลวไฟที่ประกอบพิธียัญญะ จนร่างกายวัย 15 ปีของเธอกลายเป็นเถ้าธุลี จากนั้นมาพระนางก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นศักติ (ชายา) ตนหนึ่งแห่งองค์พระนารายณ์
......
ส่วนพราหมณ์วิษณุสิทธา ก็ได้ชื่อว่า เปริยาฬวารฺ (பெரியாழ்வார்: பெரிய ใหญ่, ยิ่งใหญ่, มหา + ஆழ்வார் วรญาณี= มหาวรญาณี) เป็นพระมหาสาวกนักบุญ ตนแรกในกลุ่มไวษณพนิกายที่มีชื่อเสียงในอินเดียใต้ที่เรียกว่า อาฬฺวารฺ ஆழ்வார் (วรญาณี) ที่มักจัดเป็น 12 ตนสำคัญ
........
ปล. อาณฺฑาลฺ ปรากฏชื่อว่าเป็น 1 ในนางโคปีของพระกฤษณะในบทสวดติรุปฺปาไว திருப்பாவை (บทสวดในตรียัมปวาย) ของไทยและทมิฬนาฑู ในขณะที่ความเชื่ออินเดียใต้ทั่วไป อาณฺฑาลฺ คืออวตารของ ภูเทวี หรือพระแม่ธรณี ที่ถูกวราหวตาร (พระนารายณ์ปางปราบหิรัณยากฺษะ หรืออสูรม้วนแผ่นดิน) อุ้มขึ้นมาจากบาดาลโลก ทำให้การสัมผัสตัวนางครั้งนั้น พระแม่ธรณีถือว่าได้กลายเป็นชายาตนหนึ่งของพระนารายณ์
....
....
อาณฺฑาลฺ ติรุปฺปาไว ஆண்டாள் திருப்பாவை
........
(บทสวดฮินดูที่เป็นภาษาถิ่น อินเดียใต้ร้องเป็นเพลงได้หมด แต่ก็มีตอนประกอบพิธีที่พวกพราหมณ์สวดแบบพึมพำ เป็นส่วนตัวด้วย ส่วนมากเป็นภาษาสันสกฤต เพราะภาษาสันสกฤตสวดผิดถือเป็นเสนียดจัญไร ในกฎหมยตราสามดวงถึงกับให้โทษพราหมณ์ที่สวดผิดว่า "ประคำใหญ่แขวนคอ" คงไม่ใช่ให้ประคำใหญ่ใส่คอเฉย ๆ แต่จะถูกแขวนคอหรือไม่???)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น